
7 เดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่รอบๆกลุ่ม 5 ตำบลอินทรประมูล อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง เจอคุณยายแจ่ม อายุ 76 ปี ได้เสวนา กับทางนางทำความสะอาด ศรีก้อนเมฆ คนแก่แต เล่าราวเตือนภัย ข้างหลังดดนกลุ่มมิจฉาชีพได้พูดจาคดโกง ทำให้หลงกล จำต้องสูญสียเงินที่เก็บมาตลอดชีพไปให้แก่ ฆาตกรไป ปริมาณ 500,000 บาท ช่วงวันที่ 6 เดือนกุมภาพันธ์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา
คุณยายแจ่ม เล่าให้ฟังว่า ได้ขี่จักรยานออกมาจากบ้านไปที่รอบๆสวนกล้วย เพื่อจัดแจงตัดใบกล้วยขาย ห่างจากบ้านราวๆ 400-500 เมตร ในตอนเวลาสาย ได้เจอผู้ร้าย ชายและก็หญิง อายุวัยกลางคน แม้กระนั้นตัวการมองสง่า ขับขี่รถเก๋งสีบรอนซ์เงิน ไม่เคยทราบลำดับที่ทะเบียน เข้ามาหยุดรถยนต์เก๋งที่รอบๆข้างทางรอบๆหน้าสวนกล้วย แล้วเชิญชวนเสวนาไปเรื่อยเปื่อย รวมทั้งจู่ๆก็มีหญิงวัยกลางคนพูดจาไม่ชัดเจน เหมือนต่างประเทศเดินมาขายกระดาษทิชชู
ทางหญิงชายที่กำลังสนทนากับตัวเองได้ช่วยซื้อ 3อัน คิดเป็นเงิน 60 บาท และก็ได้จ่ายแบงค์100ให้กับต่างประเทศ แล้วได้กระทำทอนสตางค์ ก็พบว่าในกระเป๋าของผู้ขายกระดาษที่เป็นต่างชาตินั้น มีฉลากรับประทานแบ่งรัฐบาลอยู่ปริมาณ1ใบ ทางชายหญิงได้ถามคำถามว่าได้ตรวจรางวัลหรือยัง ต่างประเทศที่ขายสินค้ากล่าวว่ายัง ทางชายที่แต่งตัวสง่าพูดว่าในรถยนต์มีใบตรวจหวย ก็เลยได้ถือออกมาตรวจ พบว่า เป็นเลข 297411 งวดวันที่1 กุมภาพันธ์66 ถูกรางวัลที่ 1 ปริมาณ 1 ใบ รับเงินรางวัล 6 ล้านบาท
ทางต่างประเทศบอกขายต่อในราคา 1,500,000 บาท ทางชายหญิงอีกทั้ง 2 คนได้ร่วมเชิญร่วมทุนซื้อต่อแล้วหารเงินกัน คนละ 500,000 บาท โดยนำหวยรัฐบาลให้กับทางคุณยายวัย 76 เก็บไว้ที่ตนเองโดยใส่ถุงก๊อบแก๊บอย่างยอดเยี่ยม คุณยายหลงกลผู้ร้าย ก็เลยขี่จักรยานกลับไปบ้านนำบัญชีธนาคารที่ฝากเงินไว้ประจำตัวออกมาแล้วขี่จักรยานมาหาฆาตกรที่รออยู่ข้างทางรอบๆสวนกล้วย แล้วก็ผู้ร้ายอีกทั้ง 3 คนก็พายายไปถอนเงินปริมาณ 500,000 บาท ที่แบงค์ แล้วมอบให้กับฆาตกร
ส่วนผู้ร้ายได้ขับขี่รถเก๋งมาส่งคุณยายที่รอบๆสวนกล้วย แล้วพูดว่า ให้ยายรออยู่ที่สวนกล้วย จะไปส่งต่างประเทศก่อนแล้วจะย้อนกลับมาเอาฉลากินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัลที่1 ที่ให้ยายเก็บไว้ไปปรับเงินขึ้นร่วมกัน แต่ว่าคุณยายรออยู่นานก็ไม่มีผู้ใดกลับมา นำฉลากรับประทานแบ่งรัฐบาลออกมาเปิดมองอีกครั้งพบว่าเป็นเลข 832955 ก็เลยกลับไปอยู่ที่บ้านพร้อมไปทำฟ้องร้อง ที่สภ.โพธิ์ทอง เพื่อทางผู้พิทักษ์สันติราษฎร์มาติดตามฆาตกรมาดำเนินคดีตามกฏหมาย
ส่วนทางด้าน นางสาวโค้ วัย 50 ปี บุตรสาว ที่อยู่บ้านชิดกับแม่ เล่าให้ฟังว่า มองเห็นแม่ขี่จักรยานเข้ามาบ้าน ถามแม่ว่าจะไปไหน แม่ก็ไม่ยินยอมบอก บอกเพียงว่าไปธุระสิ่งเดียว แล้วก็โทรไปพบก็ตัดสายทิ้งปฏิเสธสาย ส่วนทางด้าน คุณยายแจ่ม เล่าเสริมเติมว่า ในเวลาที่ต่างประเทศ ตกลงขายรางวัลที่1ให้นั้นทั้งผองได้ด้วยกันสาบาน สวนตัวเองก็ประสานมือเขาเพียงอย่างเดียว ส่วนคนร้านค้านั้นมีการจับคุณยายขณะสนทนาตลอดระยะเวลา คุณยายก็ไม่เคยรู้ว่าหลงกลไปได้เช่นไร