“ศรีริต้า” กับบทบาทนักธุรกิจเจ้าของแบรนด์สปาไทย “ออกานิก้า” เตรียมโกอินเตอร์

“ศรีริต้า” กับบทบาทนักธุรกิจเจ้าของแบรนด์สปาไทย “ออกานิก้า” เตรียมโกอินเตอร์

ศรีริต้า เจนเซ่น นางเอกที่ไม่ว่าจะหยิบจับอะไรก็ดูประสบความสำเร็จไปหมด รวมถึงธุรกิจสปาไทยภายใต้แบรนด์ “ออกานิก้า” ที่นักแสดงสาวทุ่มเทอย่างหนักตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ด้วยเงินลงทุนกว่า 8 หลัก

คราวนี้มาทำความรู้จักกับ Organika Thai Spa ผ่านเรื่องราวของ “ศรีริต้า” ที่ “ริต้า” ทำธุรกิจนี้จากความหลงใหลในกลิ่น ตั้งแต่เด็กจนโตก็ได้ศึกษาศาสตร์แห่งการเดินทางผ่านความหอมในรูปแบบของสปาจนรู้จักมากขึ้นและประเทศไทยก็มีผู้ผลิตที่มีศักยภาพไม่แพ้ชาติใดในโลกเห็นได้จาก ชื่อเสียงของสปาไทย

 ซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เมื่อ “ริต้า” ได้มีโอกาสเติมเต็มความฝันของตัวเองจากความชอบด้วยการเปิดธุรกิจสปาไทย

“จุดเด่นของแบรนด์ Thai Spa Organica คือเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 95% – 100% ซึ่ง “ริต้า” ได้ใช้เวลาศึกษา และพัฒนาผลิตภัณฑ์นานถึง 10 ปี โดยทีมวิจัยที่ “ริต้า” จ้างเอง ดังนั้นทุกผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการพัฒนา และเป็นสูตรของ ออกานิก้า ไม่มีการลอกเลียนแบบจากที่ใดแน่นอน”

การเปิดตัวออกานิก้าเริ่มต้นด้วยการเปิดตัวธุรกิจสปาแห่งแรกในรูปแบบแฟล็กชิปสโตร์ชื่อออกานิก้า เฮาส์ ด้วยเงินลงทุนกว่า 50 ล้านบาท ให้บริการสปาระดับพรีเมียมและร้านอาหารสุดหรู ใจกลางเมืองย่านสุขุมวิท ในโครงการ พิมาน 49 (สุขุมวิท 49) พื้นที่ 160 ตร.ม. 

ถือเป็นประสบการณ์สุดหรู ของธุรกิจสปาไทยที่ไม่เคยทำมาก่อนเพื่อรองรับกลุ่มคนรักสุขภาพและนักท่องเที่ยวจากประเทศไทย ได้สร้างประสบการณ์สปารูปแบบใหม่ในประเทศไทย อีกรูปแบบหนึ่ง

Organigra House “Rita” แห่งนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากสวนพฤกษศาสตร์ Wilhelma ซึ่งเป็นปราสาทสมัยศตวรรษที่ 19 ในเมืองสตุตการ์ต ประเทศเยอรมนี ในอดีตเป็นเรือนกระจกที่เก็บรักษาพันธุ์ไม้นานาชนิด ตั้งแต่ยุคโรแมนติก 

รูปแบบสถาปัตยกรรมของ Organika House จึงสะท้อนให้เห็นความสง่างามและสวยงาม ผสมผสานกับความสดชื่นสง่างามของต้นไม้เขียวสด เกิดเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวที่เหมาะกับการเดินทางของกลิ่นหอมที่สกัดจากธรรมชาติของผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอใน Organika House หลังนี้ “

ส่วนหนึ่งของร้านอาหารจะเสิร์ฟอาหารเช้าและอาหารกลางวัน และอาหารค่ำแบบ Chef Table เพิ่มเติมจะเสิร์ฟโดยเชฟชาวสิงคโปร์ ที่เคยผ่านงานร้านอาหารมิชลินสตาร์มาเป็นที่ปรึกษา อาหารที่ร้านจะเน้นเป็นอาหารทะเลออร์แกนิค โดยลูกค้าที่ผ่านมาจะมีทั้งนักท่องเที่ยว และย่านนี้ เป็นย่านที่มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่ค่อนข้างมากจึงได้ลูกค้ากลุ่มนี้เช่นกัน รวมถึงลูกค้าชาวไทยซึ่งเป็นกลุ่มวัยทำงาน โดยโอกาสคืนทุนมีกำหนด 3-5 ปี

อย่างไรก็ตามในส่วนของสินค้า “ศรีริต้า” บอกว่าปี 2562 จะเน้นตลาดต่างประเทศมากขึ้น ในประเทศไทยได้ขยายตลาดในกลุ่มสินค้าผ่านห้างสรรพสินค้า “ออกานิก้า” เป็นหลัก 

โดยมีสินค้าหลักประกอบด้วย 3 ไลน์สินค้า ได้แก่ สินค้าสปา สินค้าปรับอากาศ เช่น เทียนหอม ธูป และสเปรย์ฉีดห้อง และผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เช่น สบู่ โลชั่น แชมพู ครีมนวดและสครับ หิมาลายัน บะซอลต์ และกลุ่มที่ 3 คือ ผลิตภัณฑ์จากชา เป็นต้น มีมากกว่า 200 รายการ

อย่างไรก็ตาม การบุกตลาดต่างประเทศอย่างจริงจังในปีนี้ (2562) โดยเริ่มที่ไต้หวัน สิงคโปร์ เป็นต้น การออกไปบุกตลาดต่างประเทศครั้งนี้ ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานของรัฐ 

เช่น กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ในช่วงแรกจะเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ โดยนำสินค้าไปเปิดร้านหรือฝากขายหรือร่วมทุนกับประชาชน ในพื้นที่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป

ส่วนแผนการตลาดในประเทศปีนี้ (2562) เป็นอีกปีที่หันมารุกตลาดออนไลน์มากขึ้น หลังจาก 4 ปีที่แล้วแนะนำสินค้าสู่ตลาดและมีคนรู้จักในระดับหนึ่ง ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้อาจจะกลับมาเป็นลูกค้าประจำ 

การที่เราเปิดขายออนไลน์ช่วยสนับสนุนความสะดวกสบายให้กับลูกค้ากลุ่มนี้ด้วย คาดว่ารายได้ออนไลน์จะเพิ่มเป็น 30% ที่ผ่านมาเน้นตลาดออนไลน์เพราะสินค้าเราเป็นสินค้าที่ลูกค้าต้องลอง ดม สัมผัส จึงไม่เหมาะกับตลาดออนไลน์

ปัจจุบัน ออกานิก้ามีสาขาทั้งหมด 6 สาขาที่สุขุมวิท 49, สยามพารากอน, เอ็มโพเรียม, สุวรรณภูมิ และอีก 2 สาขาที่ไอคอนสยามและเซ็นทรัลเวิลด์ ส่วนต่างประเทศที่มีแผนขยายธุรกิจไปยังสิงคโปร์ ฮ่องกง และไต้หวัน ที่เลือกเพราะเป็นประเทศที่มีศักยภาพและรสนิยมของคนในประเทศเหล่านี้ 

ปัจจุบัน ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ออกานิก้า สำหรับประเทศไทย เป็นศูนย์กลางสปาและความงามในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเติบโตเป็นอันดับ 1 ในอาเซียนด้วยมูลค่าการขาย 6,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่อุตสาหกรรมสปาและสุขภาพทั่วโลกมีศักยภาพในการเติบโตสูงมาก และมีช่องทางธุรกิจอีกมากมาย