
นายลวรณ แสงสว่างสนิท อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่ง เผยออกมาว่า ตอน 1 ปีของการจำหน่ายสลากดิจิทัลใบละ 80 บาท โดยจัดจำหน่ายไปแล้ว 356 ล้านใบนั้น ช่วยทำให้ราษฎรมัธยัสถ์รายจ่ายถึง 7,120 ล้านบาท โดยคิดจากยอดจำหน่ายในตลาดเฉลี่ยใบละ 100 บาท แต่ว่าพสกนิกรซื้อพอดีใบละ 80 บาท อดออมได้ใบละ 20 บาท
ยิ่งไปกว่านี้ ยังส่งผลให้ราคาของสลากใบในตลาดภาพรวมต่ำลงมาอย่างเป็นจริงเป็นจัง ส่วนแผนสลากดิจิทัล ปีที่ 2 กำหนดเป้าหมายว่า ถ้าหากข้อบังคับสลาก หรือแอล 6 (L6) และก็เอ็น 3 (N3) ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (คณะรัฐมนตรี) ก็จะเพิ่มสลากดิจิทัลให้เป็น 30 ล้านใบข้างในปลายปีนี้ แล้วต่อจากนั้นปี 67 จะเพิ่มเป็น 40 ล้านใบ รวมทั้งปี 68 เพิ่มเป็น 50 ล้านใบ โดยงวดวันที่ 31 กรกฎาคม66 จะเพิ่มให้ได้ถึง 20 ล้านใบ
“สลากดิจิทัลที่มากขึ้นจะมาจาก 3 ส่วนเป็น1.เปิดให้ผู้ค้ารายย่อยสมัครขาย พร้อมรับรองโควตางวดละ 5 เล่ม 2.เปิดให้สโมสร มูลนิธิ หน่วยงานที่ได้รับโควตาถาวรเข้ามาขายผ่านดิจิทัล และก็ 3.เพิ่มจากสลากแอล 6 สำหรับแอล 6 รวมทั้งเอ็น 3 ในตอนนี้อยู่ระหว่างพินิจพิเคราะห์หนทางระบุจำพวกรวมทั้งแบบอย่างสลาก ซึ่งจะเสนอให้ คณะรัฐมนตรีตรึกตรองอีกที”