
อั้ม-พัชราภา จองซื้อหุ้น IPO KLINIQ พร้อมซื้อขาย 7 พ.ย นี้
เดอะคลินิก คลินิกเวชกรรม (KLINIQ) หุ้น IPO เกินคาด ทะลุ 60 ล้านหุ้น เผย “อั้ม-พัชราภา” สมัคร IPO ด้วย เตรียมรุกตลาดซื้อขายทางเลือกใหม่ (mai) 7 พ.ย. ระดมทุนขยายคลินิกแพทย์ ตั้งเป้า 6-10 สาขาต่อปี
เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 บริษัท เดอะคลินิก คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ KLINIQ เปิดเผยว่า หลังจากประกาศจองซื้อหุ้นในวันที่ 28 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2565 ผลตอบรับเป็นไปด้วยดี เหนือความคาดหมาย
ด้วยการจองซื้อหุ้นกว่า 60 ล้านหุ้น ซึ่งถือว่าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ กับความต้องการของนักลงทุนสถาบัน ขณะเดียวกันยังได้รับความสนใจจาก Value Investor (VI) รวมถึงนางเอกดังอย่าง อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ
นายรัฐชัย ธีรธนวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม ฝ่ายวาณิชธนกิจ ตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ ดีเอโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (DAOL) เป็นที่ปรึกษาอย่างเป็นทางการของ KLINIQ เปิดเผยว่า การเข้าซื้อหุ้น IP หุ้น 60 ล้านหุ้นของ KLINIQ ร่วมกับ มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท/หุ้น ราคาหุ้นละ 24.50 บาท ระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2565
ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างแข็งขัน ทั้งนักลงทุนสถาบัน วีไอพี และนักลงทุนทั่วไป เพราะเรามั่นใจในพื้นฐานของ KLINIQ ในฐานะผู้นำในธุรกิจยาเพื่อสุขภาพและความงามแบบบูรณาการ นอกจากนี้ยังเป็นคลินิกการแพทย์แห่งแรกที่ระดมทุนในตลาดหุ้น
อย่างไรก็ตาม การที่หุ้น KLINIQ ได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากราคาหุ้นอยู่ในระดับที่เหมาะสมและมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นระดับราคาที่สมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายที่นักวิเคราะห์กูรูทั้ง 7 คนคาดการณ์ไว้ KLINIQ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 โดยใช้ชื่อย่อทางการค้าว่า “KLINIQ” ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ
“จากฐานะการเงินที่แข็งแกร่งของ KLINIQ และแบรนด์ THE KLINIQUE ที่แข็งแกร่ง ทีมแพทย์มืออาชีพ และประสบการณ์กว่า 13 ปี ไร้หนี้สิน พร้อมดอกเบี้ย ทำให้สามารถขยายได้ รองรับความต้องการของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศที่เน้นเรื่องความงามและ สุขภาพสอดคล้องกับเมกะเทรนด์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของผลการดำเนินงานในอนาคตของ KLINIQ อย่างก้าวกระโดด สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต” นายรัฐชัยกล่าว
ในช่วงหกเดือนแรกของปี 2565 ผลการดำเนินงานของ KLINIQ เติบโตขึ้นอย่างมาก หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมามีชีวิตอีกครั้ง โดยมีรายได้รวม 714.72 ลบ. เพิ่มขึ้น 58.26% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 451.59 ลบ. ขณะที่กำไรสุทธิ 100.22 ลบ. เพิ่มขึ้น 67.03% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิของ 60.00 ล้านบาท; ของปี 2564 ทั้งปี อยู่ที่ 129.25 ล้านบาท
ขณะที่ นพ. อภิรุจน์ ทองวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะคลีนิกคลินิกเวชศาสตร์ จำกัด (มหาชน) (KLINIQ) กล่าวว่าเราขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ไว้วางใจและลงทุนในหุ้น KLINIQ คอสเมโทโลจิสต์รายแรกในไทยที่ระดมทุนในตลาดหุ้นเพื่อเพิ่มศักยภาพการเติบโตในอนาคต
บริษัทมีแผนจะนำเงินไปขยายสาขาคลินิกการแพทย์ ประมาณ 6-10 สาขาต่อปี ครอบคลุมกรุงเทพฯ เมืองใหญ่ และเมืองรอง คาดว่าจะใช้เงินลงทุนขยายคลินิกการแพทย์และจัดซื้อเครื่องมือแพทย์เพิ่มเติมประมาณ 950 ล้านบาท คาดว่าจะคืนทุนภายใน 2-3 ปี ศูนย์ศัลยกรรมจะใช้เงินลงทุนประมาณ 150 ล้านบาท คาดว่าจะคืนทุนภายใน 3 ปี -4 ปี
พร้อมทั้งเตรียมนำเงินไปพัฒนาระบบไอทีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของฝ่ายสนับสนุน สำหรับการพัฒนาระบบไอทีนั้นใช้งบประมาณการลงทุนประมาณ 50 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในปี 2566 และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนประมาณ 270 ล้านบาท
“ในอดีต เราผ่านการทดลองและวิกฤตหลายครั้ง โดยไม่คำนึงถึงปัญหาทางการเมืองของประเทศในปี 2010 วิกฤตน้ำท่วมปี 2011 และการระบาดของ COVID-19 ในปี 2020 ผลการดำเนินงานของ KLINIQ ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง จากรูปแบบธุรกิจ Asset Light และฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ไม่มีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย (Cash Rich-Zero Debt)
และมีลูกค้ามาใช้บริการซ้ำแล้วซ้ำอีกกว่า 2 แสนราย ส่งผลให้มีรายได้ประจำ (Recurring Income) และจากแผนขยายสาขาเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงรวมถึงการเป็นธุรกิจที่อยู่ในเทรนด์เมกะ จะช่วยขับเคลื่อน แนวโน้มผลการดำเนินงานในอีก 1-3 ปีข้างหน้าจะเติบโตอย่างทวีคูณ” ดร.อภิรัชต์ กล่าว
- KLINIQ ขายหุ้น IPO ออก 60 ล้านหุ้น ซื้อขาย mai วันที่ 7 พ.ย
- KLINIQ เคาะราคา IPO 24.50 บ. เปิดจอง 28 ต.ค.-1 พ.ย.
- KLINIQ ยื่น 60 ล้านหุ้น เสนอขายหุ้น IPO
- รวมหุ้นกู้ออกใหม่ขายวันที่ 65 ต.ค. ดอกเบี้ยสูงสุด 7%
- เปิดบริษัท 10 อันดับแรกที่ขายหุ้นกู้ในปี 2565